อนันต์ชัย จันทรัตน์ จากชีวิตดิ่งลงเหวไปสู่ ช่างภาพแอ็คชั่นหมายเลขหนึ่งเมืองไทย
อนันต์ชัย จันทรัตน์ จากชีวิตดิ่งลงเหวไปสู่ ช่างภาพแอ็คชั่นหมายเลขหนึ่งเมืองไทย อนันต์ชัย จันทรัตน์ หรือพี่อ๋อของน้องๆ ผู้เป็น ช่างภาพแอ็คชั่นหมายเลขหนึ่งเมืองไทย จากชีวิตเด็กคนนึงที่ตกต่ำแทบดิ่งลงเหวพ่อแม่ก็ไม่รู้อยู่ไหน ชีวิตไม่น่าผ่านพ้นมาได้น่าจะกลายเป็นคนเลวไปแล้ว แต่ระหว่างความดีกับความไม่ดีที่มันอยู่ใกล้กันมากๆ มันอยู่ที่เราจะเลือกจะคิดออกรึเปล่า แต่วันนั้นคนๆนี้คิดอยู่อย่างเดียว ผมจะเอาดีให้ได้…!!! ตอนเด็กพ่อกับแม่ทะเลาะกันแล้วจึงนำพี่อ๋อมาฝากให้ลุงเลี้ยงแล้วพ่อก็ไป ด้วยความเด็กก็ยังไม่รู้เรื่องอะไรรู้แต่ว่า พอตื่นขึ้นมา “อ้าวพ่อแม่ไปไหน แล้วนี่เป็นใคร …ชีวิตเราได้เปลี่ยนไปแล้ว?” ด้วยความโชคดีที่ลุงกับป้ายังเห็นความสำคัญด้านการศึกษาพี่อ๋อจึงยังได้เรียน ตั้งแต่ป.1พี่อ๋อต้องทำทุกอย่างก่อนไปโรงเรียนต้องวิ่งไปซื้อกับข้าว กวาดบ้านถูบ้าน หุงข้าว เปิดประตูหน้าต่าง ทำเรื่อยมาจนถึง ม.ศ.5 ตอนประถมพี่อ๋อ อนันต์ชัย จันทรัตน์ ต้องอาศัยกินข้าววัด พอพระตีระฆังก็ได้แต่นั่งมองนาฬิกาเพราะพระจะฉันเพลกันตอน 11โมง ถ้ารอจนพักตามเวลาพักเที่ยงโรงเรียนคงไม่ทัน พี่อ๋อเลยต้องขออนุญาตครูพักก่อนเพื่อไปกินข้าว คุณครูก็เห็นใจให้ออกไปก่อนแต่ก็ย้ำให้ให้กลับมาจดการบ้านให้เรียบร้อยด้วย แรกๆก็ไปไม่ทันจนตอนหลังรู้ว่าหลัง 11โมง 15นาทีก็ต้องรีบออกเลยเพื่อไปทันกินกับเหล่าเด็กวัดอาชีพ และก็ไม่ลืมจะกลับมาตามงานกับเพื่อนตามที่ครูได้ขอไว้เสมอมา พอมัธยมด้วยความยากจนและพ่อแม่ไม่มีทำให้พี่อ๋อเป็นคนเก็บตัวไม่ค่อยมีเพื่อน ตอนเช้าป้าจะทำขนมให้ไปขายที่โรงเรียน ขายได้ 35บาท ก็จะเอา 30บาทใส่กระเป๋ากางเกงแล้วใช้หนังยางรัดไว้ให้แน่นห้ามหายเพราะต้องเอาไปให้ป้า ส่วนอีก 5บาทที่เป็นกำไรจะได้เอาไว้กินเป็นค่าขนม เข้าโรงเรียนตอนเช้าก็จะสายทุกวันเพราะต้องวิ่งขายขนมก่อน เพราะถ้าไม่ขายตอนนี้ตอนกลางวันก็จะไม่มีข้าวกิน สายทุกวันจนครูสงสัยเรียกมาถาม “อนันต์ชัย เธอทำไมเธอเข้าสายตลอดเลย?”…
Yoogane สุดยอด ไก่ผัดซอสคาลบี้ อันดับ1ส่งตรงจากเกาหลีมาถึงสยามแล้ว
Yoogane สุดยอด ไก่ผัดซอสคาลบี้ อันดับ1ส่งตรงจากเกาหลีมาถึงสยามแล้ว “ไปลอง ไก่ผัดซอสคาลบี้ ร้าน Yoogane กัน” ตอนเย็นใกล้เลิกงานเพื่อนก็โทรมาชวน ตัวเราก็งงๆไก่ผัดซอสมันคืออะไร? “เป็นร้านใหม่ร้านดังจากเกาหลีเพิ่งมาเปิดที่สยามเลยนะ” ได้ฟังแล้วเราก็ว่าน่าสนใจดี โอเคจัดไปๆ อยากจะไปลองอาหารเกาหลีใหม่ๆละไปกินกัน ไปถึงร้าน Yoogane ประมาณหกโมงเย็น พอเข้าไปก็ โอ้โห คนเต็มร้านเลยแบบนี้อร่อยชัวร์ ของเราโชคดีที่มีเพื่อนมาถึงก่อนไปจองโต๊ะไว้ให้แล้ว ในร้านตกแต่งด้วยไม้และอิฐโทนสีดูสว่างอบอุ่นบรรยากาศโปร่งสบาย พอได้นั่งเราก็สั่งกันแบบจัดเต็มเลย จานแรกที่มาก็คือจานเด็ดของร้านเลย Cheese Chicken Galbi ไก่ผัดซอสคาลบี้ แบบมีชีสล้อมรอบ จานนี้โดดเด่นมากโดยจะมาในกระทะแบบพิเศษที่มีรางล้อมรอบไว้ใส่ชีส ส่วนตรงกลางกระทะก็จะเป็นตัวพระเอกเนื้อไก่นุ่มๆที่คลุกมาในซอสเผ็ดรสเยี่ยมของทางร้าน Yoogane โดยจะมาพร้อมกับ Dokboki (Rice Cake) 3แบบ มันหวานสไลด์เป็นแผ่นบาง และผักสดๆ จานนี้จะมีพนักงานของร้าน Yoogane มาผัดให้เห็นกันจะๆที่โต๊ะเลย ได้เห็นความสดที่ค่อยๆเปลี่ยนเป็นความอร่อยอยู่ตรงหน้าเนี่ย แต่ละคนก็ได้แต่กลืนน้ำลายเอื้อกๆกันไป พอสุกได้ที่ก็ได้เวลากิน ไก่ผัดซอสคาลบี้ กันแล้ว คีบเนื้อไก่แล้วจุ่มไปที่ชีสเยิ้มๆที่ละลายอยู่รอบๆกระทะ เนื้อไก่นุ่มๆคลุกเคล้ากับชีสหอมมันตัดด้วยซอสเผ็ดรสเยี่ยมของร้านที่หมักมา ทั้งหมดผสมสานความอร่อยเผ็ดหอมมันกันอย่างลงตัว แนะนำต้องได้ไปลองความอร่อยใหม่นี้เองซักครั้ง จานที่สองเป็น Spicy Naengmyeon หมี่เย็นแบบเผ็ด ตัวเส้นคล้ายเส้นบุกมาในน้ำซุปเย็นแล้วราดด้วยซอสเผ็ด แกล้มกับผักดอง แตงกวาและไข่…
ตากล้องสาว นวลตา วงศ์เจริญ ผู้มีความฝันแล้วมุ่งมั่นไปหามัน
ตากล้องสาว นวลตา วงศ์เจริญ ผู้มีความฝันแล้วมุ่งมั่นไปหามัน นวลตา วงศ์เจริญ คือตากล้องสาวผู้อยู่เบื้องหลังรูปถ่ายสวยๆของนิตยสาร a day และ HAMBURGER หลายๆเล่ม เธอเป็นสาวร่างเล็กอารมณดีที่มีความฝันและความมุ่งมั่นที่จะฝ่าฟันไปหามัน ทั้งความพยายามในการเรียนในสิ่งที่หวัง การทำงานในแบบที่ตัวเองรัก และการใช้ชีวิตที่ต้องมีความสุขไปกับมัน วันนี้เราจะได้ร่วมพูดคุยเพื่อรับรู้แนวคิดและแง่มุมต่างๆในชีวิตของเธอกัน เริ่มด้วยรักแล้วมุ่งไปหามัน นวลตา วงศ์เจริญ โตมาในครอบครอบครัวที่มีพ่อจบจากคณะจิตรกรรม ชอบพาเธอไปดูงานศิลปะและซื้อพวกเครื่องเขียนมาให้ได้เล่นได้วาดเสมอ ทำให้เธอมีความรักในการวาดรูปมาแต่เด็ก พอเข้ามัธยมปลายก็ได้เริ่มติวทางด้านวาดรูปอย่างจริงจังเพื่อเอ็นทรานซ์เข้าคณะทางด้านศิลปกรรม ในครั้งแรกเธอยังเอ็นไม่ติด แต่ด้วยความชอบในด้านนี้ทำให้เธอได้พยายามต่อมาอีก 3 ปี จนสามารถสอบเข้าได้ที่ภาควิชานิเทศศิลป์และการถ่ายภาพ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ชอบวาดรูปมาสู่ถ่ายภาพ พอได้เข้าไป นวลตา ก็ต้องหัดเรียนรู้การถ่ายรูปตั้งแต่เริ่มต้น แต่ด้วยความรักในศิลปะเธอก็มีความคิดว่าการวาดรูปกับการถ่ายรูปมันก็ยังมีความคล้ายกัน แต่ต้องเปลี่ยนจากเฟรมวาดรูปมาเป็นฟิล์มในการถ่ายภาพ จากการวาดด้วยมือกับพู่กันมาวาดด้วยกล้อง แสงและไฟแทน เธอก็ได้หัดและได้พบกับความท้าทาย พบกับความยากในแบบที่รักมันขึ้นเรื่อยๆ จนเธอสนุกและรักการถ่ายรูปในที่สุด รักและเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ ตอนแรกที่ทำงาน นวลตา วงศ์เจริญ ก็ได้ทำงานถ่ายรูป Portrait เลยแต่ก็ต้องโดนจำกัดที่สไตล์ของรูปที่ถ่ายต้องเป็นไปตามโทนที่ตัวนิตยสารต้องการ ซึ่งเป็นแบบที่ยังไม่ตรงกับสไตล์ที่เธอชอบนัก แต่เธอก็ตั้งใจทำงานและเรียนรู้สร้างสมประสบการณ์มาเรื่อยๆจนประมาณ 2 ปี จึงออกมาและได้หานิตยสารที่น่าจะเหมาะกับสไตล์งานของเธอ…
ฐาวันต์ รงคพรรณ ความกล้ากับทางเลือก
ฐาวันต์ รงคพรรณ ความกล้ากับทางเลือก วันนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณ ฐาวันต์ รงคพรรณ ชายหนุ่มที่ผ่านร้อนผ่านฝนมาเพียงไม่นานแต่เค้าได้ผ่านเรื่องราวมามากมาย จากคนที่เคยเรียนวิศวะได้กลายมาเป็นครูสอนดนตรี จากเรียนอยู่ที่เมืองไทยต้องไปเรียนต่อที่เมืองนอก จากเป็นคนกรุงเทพฯได้ไปเริ่มทำงานที่พังงา ผ่านทางแยกของชีวิตหลายครั้งที่ต้องใช้ความกล้าอย่างมากในการตัดสินใจ เราจะมาฟังเรื่องราวความคิดความกล้าในการเปลี่ยนเส้นทางชีวิตของเค้ากัน เด็กศิลป์คำนวณสอบเข้าวิศวะ ฐาวันต์ รงคพรรณ ดูเป็นชายหนุ่มสบายๆเค้าเล่าให้ฟังว่า เค้าเป็นเด็กธรรมดาที่มีความชอบในรถยนต์เลยได้ตัดสินใจว่าจะเรียนต่อด้านวิศวะยานยนต์ แต่ติดที่ตัวเค้าเองดันเรียนมาในห้องศิลป์คำนวณซึงไม่ได้เรียนพวกฟิสิกส์หรือวิชาของสายวิทย์เลย ตอนนั้นเค้าก็ได้คิดและศึกษาว่าควรจะทำยังไงดี? ควรจะทำตามสิ่งที่เค้าชอบมั้ย? เค้าก็ได้ศึกษาข้อมูลทำให้ได้รู้ว่าการจะสอบเข้านั้นเป็นการสอบตรงโดยต้องใช้เกรดเฉลี่ย และคะแนนสอบ 3 วิชา ด้วยความชอบและความกล้าเค้าก็เลยตัดสินใจใจที่จะสอบ ซึ่งเค้าก็คิดว่าจะใช้วิชาเลขกับอังกฤษให้ผ่าน 2 ใน 3 วิชาได้ สุดท้ายเค้าก็สามารถสอบติดเข้าไปเรียนได้ตามที่หวัง แต่ตอนที่เรียนเค้าก็ยังต้องปรับตัวอีกเยอะ ขยันมากกว่าคนอื่นเพื่อเรียนตามให้ทันเพื่อน และทดแทนวิชาทางสายวิทย์ที่เค้าไม่เคยได้เรียนเลย จากวิศวกรสู่ครูสอนดนตรี ด้านดนตรี ฐาวันต์ รงคพรรณ ได้เริ่มเรียนเปียโนมาตั้งแต่เด็กประมาณ 10 ขวบและได้เล่นเรื่อยมา ระหว่างเรียนเปียโนที่ Eurhythmics Center เค้าได้เดินผ่านห้องเรียนแล้วได้เห็น ครูปูเป้ (อ.นิลวรรณา อึ้งอัมพร) สอนดนตรีเด็กๆแล้วดูสนุกมาก ความสนุกของเด็กๆที่เรียนดนตรีกับ ครูปูเป้ ทำให้เค้าประทับใจคิดว่าตอนเราเด็กๆถ้าได้เรียนอย่างนี้บ้างคงสนุกดี จนตอน ม.4-5 ครูปูเป้ ขอให้เค้ามาช่วยสอนดนตรีเลยได้มาเป็นครูผู้ช่วยสอนเด็กเรื่อยมา จนเข้ามหาลัยปี3…
Kinshiro อาหารญี่ปุ่นแบบ Nagasaki Style
Kinshiro อาหารญี่ปุ่นแบบ Nagasaki Style “วันนี้ไปลองอาหาร Nagasaki Style กันมั้ย ร้าน Kinshiro ตรง Rain Hill” เพื่อนโทรมาชวนตอนเย็นก่อนเลิกงาน เราก็งงๆอาหาร นางาซากิ มันจะเป็นยังไง อร่อยเหมือนอาหารหารญี่ปุ่นอื่นๆมั้ยนะ? ด้วยความอยากลองก็เลยตอบตกลงไปในทันที “จัดไปๆคร๊าบบบ” พอเลิกงานปุ๊บก็รีบตอกบัตรออกกันเลย นั่งรถไฟฟ้าไปไม่นานก็ถึงแล้ว โดยตัวร้าน Kinshiro จะอยู่ที่ชั้น 3 ของตึก Rain Hill ตรงปากซอยสุขุมวิท 47 บรรยากาศร้านจะออกแนวญี่ปุ่นแบบโมเดิร์นตกแต่งด้วยไม้ ดูสะอาดตาน่านั่งทั้งแบบเฮฮากับเพื่อนฝูง หรือไปนั่งกินแบบอบอุ่นกับครอบครัวก็ได้ จานแรกที่ได้ลองกันเป็น Pumpkin Soup ซุปฟักทองสีส้มสวยใส่มาในถ้วยช็อท รสชาติกลมกล่อมหอมมัน โดยซุปนี้ทางร้านจะบริการฟรีให้กับลูกค้าทุกคน เหมือนเป็นจานเรียกน้ำย่อยก่อนอาหารหลัก ลูกค้าที่ชอบก็สามารถสั่งเพิ่มกันได้นะครับ จานถัดมาเป็น Tetsukuri Goma Dofu เป็นออเดิร์ฟอีกจานที่ปรุงจากเต้าหู้งาที่ทำด้วยมือ ทำให้ได้รสสัมผัสที่แปลกดีเคี้ยวได้หนุบหนับต่างจากเต้าหู้ปกติที่แตกง่าย รสชาติซอสที่ราดมาก็เบาๆทานแล้วสดชื่นดี จานต่อไปคือ Gyutataki เป็นเนื้อสไลด์สไตล์ญี่ปุ่น ตัวเนื้อแล่ได้หนากำลังดีราดด้วยน้ำซอสรสเปรี้ยว เวลากินให้คีบคู่กับผักที่แกล้มมาจะได้รสชาติหวานนุ่มของเนื้อตัดด้วยความเปรี้ยวของซอสและได้สัมผัสความกรุบกรอบของผักเข้ากันมากๆ…
ชาเขียวญี่ปุ่นแท้ มีประโยชน์อย่างไร
ชาเขียวญี่ปุ่นแท้ มีประโยชน์อย่างไร เครื่องดื่ม ชาเขียวญี่ปุ่นแท้ เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมมากในขณะนี้ รู้หรือไม่ว่านอกจากจะรสชาติหอมอร่อย และช่วยให้เราดับกระหายคลายร้อนแล้ว การดื่มชาเขียวยังมีประโยชน์อื่นๆต่อร่างกายเราอีกมากมาย ชาเขียวญี่ปุ่นแท้ เป็นชาที่เราเก็บยอดชามาจากไร่แล้วจะต้องรีบนำไปส่งที่โรงงานเพื่อเอาเข้าเครื่องอบไอน้ำเพื่อหยุดปฏิกริยาการหมักของใบชาทำให้ยอดชายังคงความสดอยู่มากที่สุด ใบชาที่ได้จะแห้งแต่ยังมีสีเขียวอยู่เราจึงเรียกกันว่า ชาเขียว โดยกระบวนการนี้ยังทำให้สารอาหารต่างๆในใบชาไม่โดนเอนไซม์ทำลายและยังคงอยู่มากที่สุดด้วย ใน ชาเขียวญี่ปุ่นแท้ จะมีสารอาหารที่สำคัญคือ กรดอะมิโน วิตามิน B, C, E สาร xanthine alkaloids และ theophylline ซึ่งทำให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า และสาร flavonoids ที่เรียกว่า catechins โดย catechins ที่พบมากในชาเขียวคือ สาร epigallocatechin gallate ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เมื่อเราดื่ม ชาเขียวญี่ปุ่นแท้ เราก็จะได้รับสารต่างๆที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยสาร catechins ที่พบมากในชาเขียวนั้น เป็นสารช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานและไขมันจึงช่วยการควบคุมน้ำหนักของร่างกาย การดื่มชาเขียวยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือด และยังมีงานวิจัยพบว่าชาเขียวมีส่วนต่อต้านการเกิดโรคของหลอดเลือดหัวใจ นอกจากนั้นยังมีการศึกษาพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียวช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งต่างๆได้ ดังนั้นการดื่ม ชาเขียวญี่ปุ่นแท้…
นับถอยหลัง เจอกัน Thaifex 2016 – World of Food Asia
นับถอยหลัง เจอกัน Thaifex 2016 – World of Food Asia ได้เวลานับถอยหลังสู่งาน Thaifex 2016 หลังจากผ่านพ้นไปแล้วกับงานในปีนี้ บริษัทต่างๆก็มีเวลาเตรียมตัวอีก 1 ปีในการกลับไปคิดค้นออกแบบสินค้าใหม่ๆ เพื่อจะได้เอามาโชว์กันใหม่ในปีหน้า ในงานนี้เป็นการรวมตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมด้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดของปี บูธต่างๆได้แข่งขันกันสร้างสรรค์สินค้าใหม่ๆมาออกในงานนี้ ปีที่ผ่านมาบูธ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ก็มาใน Concept “ครัวในบ้าน” เหมือนเป็นการยกครัวที่รวบรวมสินค้าต่างๆที่น่าสนใจมาแสดงให้ผู้บริโภค และผู้ที่มาเยี่ยมชมงานทั้งจากในประเทศและนอกประเทศได้เห็น นอกจากการแสดงสินค้าแล้ว ยังมีการโชว์การสาธิตต่างๆมากมายในงาน ทั้งการปรุงอาหารแบบต่างๆ การได้ทดลองสินค้าตัวใหม่ที่ยังไม่ได้เอาไปวางขายในตลาด จึงน่าติดตามเป็นอย่างมากว่างาน Thaifex 2016 ปีหน้าจะมีสินค้าสร้างสรรค์ใหม่ๆที่น่าสนใจ ที่จะทำให้เราตื่นตาตื่นใจมากกว่าปีนี้มั้ย มาร่วมนับถอยหลังไปด้วยกันแล้วเจอกันที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี วันที่ 25 – 29 พฤษภาคม 2559 ครับ
Chef’s Table กินข้าวบ้านเพื่อนกับ เชฟอาร์ต
Chef’s Table กินข้าวบ้านเพื่อนกับ เชฟอาร์ต วันก่อนได้ไปลองทานอาหารแบบ Chef’s Table ที่ทำโดย เชฟอาร์ต ศุภมงคล ศุภพิพัฒน์ ตอนแรกที่ได้ฟังก็ยังงงๆอยู่ว่าจะเป็นรูปแบบยังไง โต๊ะของเชฟเหรอ? จะกินกันยังไงล่ะนั่น? เรานัดเจอกับพวกพ้องแถวเอกมัยก่อนเพื่อรวมตัวเดินทางไปพร้อมกัน พอไปถึงก็ หา? นี่มันบ้านคนไม่ใช่ร้านอาหารนี่? เลยคิดว่าจะต้องมารับใครอีกคนมั้ง? แต่ไม่ใช่ ที่นี่แหละที่ๆเราจะมาทานอาหารกัน… พอเข้าไปในบ้านก็ได้เจอชายหนุ่มใส่ผ้ากันเปื้อนยิ้มกว้างอย่างอบอุ่นต้อนรับ เค้าคนนี้แหละคือ เชฟอาร์ต ศุภมงคล ศุภพิพัฒน์ เป็น Celebrity Chef ที่ทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านอาหารให้กับ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น เป็นผู้คิดเมนูให้กับร้าน EST.33 เป็นอาจารย์พิเศษที่ Le Cordon Bleu และเคยเปิดร้าน Zeist ร้านอาหารสไตล์เฟรนช์-อิตาเลียน แถวสุขุมวิท จะเป็นผู้เปิดครัวที่บ้านทำอาหารให้เราได้ทานกันในวันนี้ หลายคนอาจสงสัยแล้วตกลง Chef’s Table มันเป็นยังไง? จริงๆแล้วก็สามารถแปลได้ตรงตัวคือ โต๊ะของเชฟ โดยปกติในร้านอาหารเชฟจะทำอาหารกันในครัว พอหิวก็จะพักสลับกันไปทานอาหาร…
งาน Thaifex 2015 ปีนี้ พบกับ “ครัวในบ้าน” ของ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น
งาน Thaifex 2015 ปีนี้ พบกับ “ครัวในบ้าน” ของ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น งาน Thaifex 2015 ปีนี้ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น มาใน Concept “ครัวในบ้าน” โดยพัฒนาแนวทางการออกแบบบูธมาจากแนวคิด Singha, Taste of Life เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ของสิงห์ สามารถเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คนในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี งาน Thaifex 2015 จึงเป็นโอกาสในการที่สิงห์จะได้แสดงภาพพจน์นี้ออกสู่ผู้บริโภค และผู้ที่มาเยี่ยมชมงานทั้งจากในประเทศและนอกประเทศ การออกแบบเป็นการนำเอาความคิดของ “ครัวในบ้าน” ที่ทันสมัยแนว Contemporary Bar & Cafe มาใช้ ทำให้บรรยากาศที่ได้มีความเป็นกันเอง ดึงดูดให้ผู้คนเดินเข้าไปเยี่ยมเยือนเพื่อจะได้ประทับใจที่ได้พบกับความหลากหลายของสินค้าของ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น นอกเหนือไปจาก เครื่องดื่มเบียร์ น้ำดื่ม และโซดาแล้วในงาน Thaifex 2015 ครั้งนี้ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ก็มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆมากมายเช่น อาหารสำเร็จรูป กาแฟ DVS ดอยช้าง…